ตรวจวิดีโอ

นัชชา

CBI

- จากที่ดูก็สอน CBI เนื้อหาคณิตศาสตร์ Numbers อาจารย์เห็นความพยายามของเรานะคะที่จะสอน พยายามทำเนื้อหาให้เด็กเข้าใจ ตอนเนื้อหาคณิตศาสตร์เป็นพื้นฐานทั่วไปไม่ได้ยาก แต่จะท้าทายตรงที่ต้องสอนเป็นภาษาอังกฤษ แม้เด็กส่วนมากจะอ่อน แต่เราก็พยายามหาเทคนิคดีค่ะ เช่นตอนสอน sum ก็มีการใช้กล่อง ใช้ลูกบอลเข้ามาประกอบ ให้เด็กออกมา เห็นการใช้ gestures ดีมากในห้องเรียน ว่าแต่เด็กไม่มี Text เรียนหรอคะ Text 1, Text 2 ไม่มีชีทแจก/ไม่มีหนังสือ พอเด็กฟังเฉยๆ เริ่มจะคลาน เริ่มจะหลุด // ปรับ definition ให้ง่ายลงดีไหมคะ อาจจะใช้ภาพประกอบ โยงเส้น แทนที่จะขึ้น definition เช่น "the total number of addition is called sum" แบบนี้เพียงอย่างเดี่ยวจะดูยากไป // ตัว content น้อยไปหน่อยค่ะ แต่ก็พอเข้าใจได้เพราะสอนเด็กเล็กและเด็กอ่อน หากมีโอกาสได้สอนอีก อาจพัฒนาโดยเสริมเนื้อหา เสริมภาษาเข้าไปอีก

Problem solving

- จากที่ดูสอน ก็คือกิจกรรมให้เด็กมาแก้โจทย์คณิตศาสตร์ทั้ง กิจกรรมฟัง ก็ดีนะคะ ให้เด็กฟังแล้วก็คิดเลขแล้วก็ตอบ เด็กได้ฟัง .... แต่กิจกรรมพูด ยังไม่ strong พอเพราะเด็กได้พูดแค่ตัวเลข ไม่ได้ฝึกสื่อสารมากพอ ... ส่วนกิจกรรมอ่านก็ ok จ้า เด็กได้อ่าน คุ้นเคยกับ Text แต่ว่าพอเป็นกิจกรรมกลุ่มวิ่งไปตอบคำถามอาจารย์ก็ไม่แน่ใจเรื่อง comprehension ของเด็กสักเท่าไหร่ บางคนก็แค่วิ่งตามเพื่อน ลองสุ่ม re-check ทีละคนเช็คความเข้าใจดีไหม.... กิจกรรมเขียน เด็กได้เขียนแค่ตัวเลขใช่ไหมคะ ? เด็กเลยไม่ได้ฝึกเขียนภาษาเลย เลยยังดูไม่ใช่ writing activity


Learning style

- ทำได้ดีจ๊ะ มีกิจกรรมหลากหลาย เขียนระบุ learning style มาชัดเจนดี มีทั้ง auditory , visual และอื่นๆ ถือว่าเป็นบทเรียนที่ไม่น่าเบื่อ รูปแบบกิจกรรมเอื้อต่อผู้เรียนหลายประเภท แต่ก็ยังมีผู้เรียนบางคนที่ไม่สนใจบทเรียน ก็เห็นว่าเราพยายามดึงเค้ากลับเข้าสู้บทเรียนอยู่ค่ะ


ภาพรวม

เด็กยังไม่ได้ฝึกทักษะภาษาผ่าน CBI เท่าที่ควร กิจกรรมที่เราสอนบางกิจกรรมเด็กยังได้ฝึกแค่ทักษะคณิตศาสตร์ ยังไม่ใช่การฝึกภาษาผ่านคณิตศาสตร์ ตัว Text 1, 2, 3 ไม่เห็นในบทเรียน เด็กไม่มีชีทในช่วงแรกๆ ไม่มีหนังสือเรียน แต่ก็ถือว่าสอนได้สนุกดีค่ะ เด็กดูมีความสุขดี เด็กก็ได้ฝึกแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ผ่านโจทย์ภาษาอังกฤษ ก็โอเคจ้า

B+++

สยุมพร A

- listening: ฟังประโยคและเลือกประเภทของขยะ ตามด้วยกิจกรรมทำ mind map หัวข้อ how to save the world ด้วยการ recycle และนำเสนอ
- reading: กิจกรรมแรก ให้จับคู่ภาพกับประโยคจาก text (ไม่เห็น text ว่าเป็นเรื่องอะไร แต่เดาว่าน่าจะเป็นเรื่องปัญหาขยะกับการ recycle) / กิจกรรมที่สอง ครูเปิดภาพปัญหาขยะของผู้หญิงคนหนึ่ง และให้นักเรียนเขียนอธิบาย why should she recycle at home
- speaking: กิจกรรมแรก พูดหัวข้อ how to recycle โดยใช้ modal verb-can ตามที่สอนในขั้นแรก โดยให้ตอบเป็นประโยคสั้นๆ / กิจกรรมที่สอง ครูให้โจทย์ how to recycle ให้นักเรียนทำ mind map ตามหัวข้อย่อย advantages, disadvantages, application in life และนำเสนอ
- writing: กิจกรรมแรก ให้สร้างโปสเตอร์หัวข้อการแก้ปัญหาขยะในโรงเรียน โดยแต่งสโลแกน / กิจกรรมที่สอง ให้ปิดตาสัมผัสขยะในกล่องและนับจำนวนชิ้นขยะ (ตอนสัมผัสนั้นทำพร้อมกันทั้งกลุ่มเลยเกิดความสับสนในการนับ ถ้าจับแค่คนเดียวจะง่ายกว่ามั้ย) และให้สร้างสิ่งของจากขยะและนำเสนอการนำไปใช้ประโยชน์
- มีการใช้ problem-solving skills ที่ลึกดี กิจกรรมในแต่ละส่วนมีความหลากหลายและส่งเสริมกันดี มีการปูทางมาก่อนในกิจกรรมแรกและส่งไม้ต่อไปยังกิจกรรมที่สอง ตอบโจทย์ได้ถึงใจ
- Learning styles ยกมาครบทั้งตระกูล --> นักเรียนมี output ที่ดี ทำได้ตามโจทย์

จันทร์จิรา B++++

- สอนศัพท์และโครงสร้างได้ดี มีตัวอย่างที่ชัดเจน พร้อมทบทวนและเช็คความเข้าใจ
- Ramses II (แรมเซสที่ 2) อ่านว่า the second ไม่ใช่ two โปรมแกรม text aloud มันก็อ่านตามที่เราเขียน มันไม่รู้ว่าต้องอ่านยังไง
- มีสอน problem-solving skill (decision making) แต่ควรอธิบายแต่ละขั้นด้วยภาษาที่ง่ายขึ้นหรืออธิบายเพิ่มเติม เช่น generate ideas = think about what you can do to reach the goal
- มีระบุและอธิบาย learning style = visual ไว้อย่างชัดเจน / visual ในที่นี้คืออ่าน text อย่างเดียว
- listening: ให้ฟังและ fill in the blanks โดยมีทั้งเติมศัพท์และ grammar ครอบคลุมสิ่งที่สอนไปดี แต่เป็นกิจกรรมที่ยังอ่อนไป ถ้าให้ฟังแล้วตอบคำถามจากที่ฟังจะดูหนักแน่นกว่า
- reading: ให้คำถามก่อนอ่านเนื้อเรื่อง / text 3 เกี่ยวกับประวัติของ Ramses II + King Tut โอเคตอบโจทย์
- speaking: อ่านเรื่องสั้นเป็นกลุ่มและสรุป main idea เพื่อนำเสนอหน้าชั้น
- writing: สมมติว่านักเรียนเป็น king/queen มีประเทศเป็นของตัวเอง ให้เขียนว่าจะทำอะไรกับเมืองนั้น / กิจกรรมและ output ดูไม่ต่างจาก speaking เท่าไหร่
- pbs เกิดใน writing แต่ยังไม่ชัดเจนพอเพราะไม่เห็นถึง 4 steps ที่สอนไป อาจจะมีแค่ generate ideas เท่านั้น คือโจทย์ดูกว้างไป ถ้าให้โจทย์ไปว่าจะทำอย่างให้ประเทศของตัวเองมีความสุข ความก้าวหน้า หรือความมั่งคั่ง จะเป็นการช่วยนักเรียน set the goal ในขั้นแรกเพื่อให้ไปต่อยอดในอีกสามขั้นที่เหลือเองได้

ดลฤทัย B+++

- มีอธิบาย steps ต่างๆ ของ pbs พร้อมภาพประกอบ ใช้ได้ เข้าใจง่าย
- listening: ฟังเรื่อง How does alcohol affect the body แล้วเติมคำในช่องว่าง / ยังเป็นการฟังที่ไม่แน่นพอ ถ้าให้ฟังเนื้อเรื่องหรือประโยค แล้วตอบคำถามจะโอเคกว่า
- reading: text 3 เรื่องเดียวกับ listening / ให้อ่านแล้วสรุปใจความสำคัญลงใน flow chart ใช้ได้ แต่น่าจะอธิบายให้ชัดเจนขึ้นว่าให้สรุปเป็นภาพรวมคือมี effects อะไรบ้างหรือให้สรุปเป็น sequence ของ effects เพราะให้เป็น flow chart มา ซึ่งหลายคนยังสับสน
- speaking: ให้นักเรียน interview เพื่อนในห้อง โดยมีให้ 7 คำถามเกี่ยวกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ในจุดนี้ครูไม่ได้ระบุว่าถามข้อละคนหรือถามคนเดียวได้ทั้ง 7 ข้อ) เหมือนเห็นว่าบางคนไม่ได้ถามเองแต่อาศัยลอกข้อมูลจากคนข้างๆ บางคนก็ไม่ได้พูดถามแต่ชี้คำถามให้เพื่อนตอบ หรืออาจารย์ตาฝาด? / โดยรวมกิจกรรมนี้ใช้ได้ดีเลย
- writing: เขียน causes & effects และวิธีการแก้ปัญหาแอลกอฮอล์ (ใช้ google translate กันเป็นแถว เตือนด้วย!!!) / นักเรียนมี output ที่ดี อธิบายเป็นขั้นเป็นตอน cause --> effect --> solution --> result ถ้าครูย้ำ pbs 6 steps ที่สอนไปในขั้นแรกจะออกมาสุดยอดกว่านี้เพราะจะได้ใช้มันทุกขั้น
- ls ไม่ได้มีระบุชัดเจน

วิภาวี B+++

- Tonation + speed ของการสอนดีมาก เหมาะกับเด็กเล็ก
- มีความพยายามอธิบาย adj. เกี่ยวกับสภาพอากาศได้ดี แม้จะไม่เห็นว่าเด็กแยก sun กับ sunny ออกมั้ย
- Learning styles = kinesthetic = singing + dancing ทำท่าเปียกฝน ลมพัด หนาว ก็ใช้ได้ แม้บางอย่างจะทำท่าไม่ได้ เช่น หิมะตก เป็นต้น มีความพยายาม
- Listening: drawing dictation ดีนะ เหมาะกับเด็กเล็ก
- Reading: ครูพาอ่าน ทบทวนประโยค แล้วให้นักเรียนอ่านพร้อมกันทั้งห้อง จากนั้นก็แบ่งกลุ่มกันเพื่อแข่งกันอ่านประโยคที่ครูชี้ – text 3 ยังไม่ตอบโจทย์
- Problem solving = จับคู่รูปภาพอากาศกับการแต่งกาย และเขียนบรรยายสภาพอากาศ – ยังไม่เห็นเป็นรูปร่างขั้นตอน แต่สำหรับเด็กเล็กก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี

ธนัญญา B+

- สอนเรื่องการบอก ถาม-ตอบ เวลา โดยใช้ o’clock, AM, PM การอธิบายเนื้อหายังไม่ชัดเจน ครูพูดอธิบายซะส่วนใหญ่โดยไม่มี visual ประกอบ ตัวอย่างยังไม่พอ ยังไม่เห็นภาพความสัมพันธ์ระหว่าง o’clock กับ AM/PM เช่น 9 o’clock in the morning = 9 AM เหมือนจะเน้นสอนแค่ AM/PM
- ใช้รูป sun/moon มาเป็นตัวบ่งชี้ sun=PM moon=AM ทำให้เกิดความเคลือบแคลง เช่น 7 PM แต่ sun ยังอยู่ ควรใช้ภาพประกอบอื่นเพื่อให้เห็นความหมายชัดเจนขึ้น เช่น ต้องการให้ตอบ 7PM ให้ใส่รูปเพิ่มและเสริมว่าตอน 6… เคารพธงชาติ ดังนั้น 7 นี้จะต้องเป็น…
- ยังไม่เห็นการย้ำทวนเนื้อหา สอนแค่ศัพท์และให้อ่านตามสั้นๆ
- listening: ฟังโจทย์ AM/PM แล้วเลือกตอบ T/F จากภาพ ถ้าไม่นับที่สอนแยก AM/PM โดยใช้ sun/moon ก็ถือว่าใช้ได้
- reading: text 3 น่าจะตอบโจทย์ แม้จะมองเห็นแค่ลางๆ / กิจกรรมหลังฟังให้เขียนประโยคบอกเวลา เข้าท่าดี มีความเชื่อมโยงต่อเนื่องจากที่อ่านไป แต่เห็นหลายคนทำไม่ค่อยได้ output ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มาจากการอ่าน  อาจเพราะว่าตอนอ่านนั้นไม่ได้อ่านอย่างเข้าใจ แค่อ่านออกเสียงตามที่ครูพาอ่านเฉยๆ
- Speaking: แจกรูปนาฬิกาให้เดินถามเวลาเพื่อนทีละคู่ ดูแล้วเด็กแต่ละคนสนใจใส่ใจดี แต่พอเรียกตัวอย่างมาพูดหน้าห้องบางคนยังพูดไม่ได้ แสดงว่ายังป้อนไม่แน่นพอ
- ยังไม่เห็น pbs
- ls ที่เด่นๆ น่าจะเป็นให้ตอบคำถาม T/F โดยการยืนอยู่กับที่-เดินไปข้างหน้า แต่เด็กเหมือนจะไม่ค่อยได้คิดเท่าไหร่เพราะอาศัยเดินตามเพื่อนส่วนใหญ่

พีรภัทร B++

- พร้อพเยอะดี ทุ่มทุนมาก เปิดตัวอลังการ แฝงเนื้อหาที่จะสอนใน structure ได้ลงตัว แต่ถ้าชี้ให้เห็นถึงบทเรียนที่แฝงไว้ด้วยจะดีมาก ไม่งั้นทุกคนจะโฟกัสไปที่ของกินอย่างเดียว ถือว่ายังเป็นขั้น pre ที่ไม่สุดดี
- reading: text 3-Foods from the Americas โอเค ตอบโจทย์ / เช็คความเข้าใจโดยคำถาม T-F
- listening: ฟังศัพท์เกี่ยวกับวัตถุดิบในการทำอาหารแล้วเขียนออกมา / เป็นกิจกรรมที่ดูโดดขึ้นมา ไม่ค่อยจะเกี่ยวกับขั้นก่อนหน้าเท่าไหร่ (ก่อนหน้าก็ส่งต่อไม่เนียนพอ อารมณ์เหมือนส่งของต่อๆ กันมา คนแรกส่งมะนาวมาให้แต่ทำหล่น เลยทำเนียนหยิบมะกรูดส่งต่อให้คนถัดไป คือเป็นคนละเรื่องเดียวกัน) ครูลืมบอกก่อนว่าให้เขียนให้ได้มากที่สุด (ลืมกด ppt คำสั่งเลยไม่เด้ง ครูก็ลืม) ถ้าบอกจุดประสงค์ก่อนน่าจะดีนะ จะได้เป็นการฟังอย่างมีจุดยืนว่าฟังเพื่ออะไร
- writing: นำศัพท์วัตถุดิบในขั้น listening ที่เขียนออกมาได้มาเขียนสูตรอาหาร / เป็นกิจกรรมที่รับช่วงต่อในขั้นสุดท้ายได้ดีมาก จะดีกว่ามากถ้าปรับปรุงขั้น listening
- speaking: สาธิตและอธิบายวิธีการทำอาหารจากสูตรที่เขียน / ยืนอ่านตาม ppt ไม่ค่อยตอบโจทย์เท่าที่ควร
- ls: มาครบใช้ได้
- pbs: ไม่เห็น ถ้าให้โจทย์ทำนองว่าให้คิดสูตรอาหารสำหรับคนที่มีความต้องการอาหารแบบนั้นแบบนี้โดยใช้วัตถุดิบเฉพาะที่ฟังแล้วเขียนได้น่าจะเข้าทางมากขึ้น

pasawaniwed พิมพ์ว่า:

พีรพงษ์ B++

- พร้อพเยอะดี ทุ่มทุนมาก เปิดตัวอลังการ แฝงเนื้อหาที่จะสอนใน structure ได้ลงตัว แต่ถ้าชี้ให้เห็นถึงบทเรียนที่แฝงไว้ด้วยจะดีมาก ไม่งั้นทุกคนจะโฟกัสไปที่ของกินอย่างเดียว ถือว่ายังเป็นขั้น pre ที่ไม่สุดดี
- reading: text 3-Foods from the Americas โอเค ตอบโจทย์ / เช็คความเข้าใจโดยคำถาม T-F
- listening: ฟังศัพท์เกี่ยวกับวัตถุดิบในการทำอาหารแล้วเขียนออกมา / เป็นกิจกรรมที่ดูโดดขึ้นมา ไม่ค่อยจะเกี่ยวกับขั้นก่อนหน้าเท่าไหร่ (ก่อนหน้าก็ส่งต่อไม่เนียนพอ อารมณ์เหมือนส่งของต่อๆ กันมา คนแรกส่งมะนาวมาให้แต่ทำหล่น เลยทำเนียนหยิบมะกรูดส่งต่อให้คนถัดไป คือเป็นคนละเรื่องเดียวกัน) ครูลืมบอกก่อนว่าให้เขียนให้ได้มากที่สุด (ลืมกด ppt คำสั่งเลยไม่เด้ง ครูก็ลืม) ถ้าบอกจุดประสงค์ก่อนน่าจะดีนะ จะได้เป็นการฟังอย่างมีจุดยืนว่าฟังเพื่ออะไร
- writing: นำศัพท์วัตถุดิบในขั้น listening ที่เขียนออกมาได้มาเขียนสูตรอาหาร / เป็นกิจกรรมที่รับช่วงต่อในขั้นสุดท้ายได้ดีมาก จะดีกว่ามากถ้าปรับปรุงขั้น listening
- speaking: สาธิตและอธิบายวิธีการทำอาหารจากสูตรที่เขียน / ยืนอ่านตาม ppt ไม่ค่อยตอบโจทย์เท่าที่ควร
- ls: มาครบใช้ได้
- pbs: ไม่เห็น ถ้าให้โจทย์ทำนองว่าให้คิดสูตรอาหารสำหรับคนที่มีความต้องการอาหารแบบนั้นแบบนี้โดยใช้วัตถุดิบเฉพาะที่ฟังแล้วเขียนได้น่าจะเข้าทางมากขึ้น

อาจารย์คร้าบ ผมชื่อพีรภัทร -3-

pasawaniwed พิมพ์ว่า:

อาจารย์คร้าบ ผมชื่อพีรภัทร  -3-

My bad...

อัจฉรา B+

- สอน conditional sentence งงนะ ตัวอย่างไม่พอ ยังไม่เห็นภาพ
- ปรังปรุงเรื่องการออกเสียง
- ตอนถามคำถามเพื่อ check understanding ลืมไปรึเปล่าว่าสอน conditional sentence ไปแล้วทำไมไม่ใช้รูปประโยคตามที่สอนเพื่อให้นักเรียนเข้าใจและเห็นภาพการใช้งานมากขึ้น
- Listening: ให้ฟังประโยคแล้วเลือกแผ่นกระดาษที่เขียนประโยคตามที่ได้ฟัง ฟังเฉยๆ แล้วเขียนตามที่ได้ยิน ไม่ค่อยตรงจุดเท่าไหร่
- Reading: text 3 มาเป็นท่อนๆ ไม่เห็นทั้งหมดแต่รู้ว่าไม่ตอบโจทย์ เหมือนจะคุ้นๆ ว่าเป็น text ที่เอามาจากที่เปิดให้ฟังในช่วงแรกใช่หรือไม่
- Speaking: interview friends about “what is the one thing you can’t live without” ใช้ได้ ดีเยี่ยม รับช่วงต่อจากสิ่งที่เรียนมาได้ลงตัว แต่ถ้าย้ำเพิ่มเติมว่าไอ the one thing ให้อยู่ในหัวข้อที่ให้ไว้ก็จะดี เพราะเห็นคนนึงตอบ money หน้าตาเฉยซึ่งไม่เกี่ยวข้องอะไรกันเลย ไม่ใช่ inventions/discoveries ที่คนเราไม่อาจอยู่ได้ถ้าไม่มีมัน
- Writing: ให้เขียนข้อดีข้อเสียของ inventions/discoveries that changed history โอเคดี แต่เท่าที่ดูทุกกลุ่มลอกตามตัวอย่างของครูหมดเลย ถ้ากำหนด inventions/discoveries ให้เลือกเอาน่าจะออกมาดีกว่านี้ อยากเห็น final product วีดีโอตัดก่อน ยังดูไม่สุด
- Pbs: ยังไม่เห็น / ถ้าเพิ่มโจทย์ว่าหากวันนึงไม่มี inventions/discoveries ให้ใช้ เราจะมีวิธีดำเนินชีวติอย่างไร จะตอบโจทย์ได้ในระดับนึง
- Ls: ไม่ได้ระบุไว้ชัดเจน

Pannida  

CBI

1. เท่าที่ดูก็สอน CBI หัวข้อ Animals เนื้อหาเชิงวิทยาศาสตร์  วงจรชีวิตกบ โดยภาพรวมวางแผนการสอนและกิจกรรมได้ดีค่ะ
2. ตอนสอนศัพท์มีสื่อดีค่ะ อาจารย์ชอบที่หนูโชว์ภาพแล้วถามคำศัพท์เด็กตอบว่า “ฮวก” คือเด็กเค้าเข้าใจคำถามเพียงแค่เค้าไม่รู้คำศัพท์  ดีนะการถามคำถามเด็กทำให้เด็กได้คิดตามดี ได้ลองตอบลองถูกลองผิด แล้วครูก็เฉลยคำศัพท์ที่ถูกต้อง  ดีกว่าการใส่ input ไปด้วย definition ยาวๆจาก dictionary ซึ่งยิ่งทำให้เด็กไม่เข้าใจความหมายคำศัพท์เข้าไปใหญ่
3. ช่วงที่หนูทำกิจกรรม listening #1 วงจรชีวิตสัตว์นักเรียนคุยกันแทบไม่ได้ฟัง audio ที่เปิดเลย เด็กไม่มีสมาธิ บางคนเห็นหยอกกัน แสดงว่า…ควรมีกิจกรรมหรือวิธีการอย่างไรดีที่จะให้เด็ก follow audio แล้วไม่หลุด พอเป็น listening activity แล้วเด็กไม่ฟัง..เลยหมดกันเลย
4. reading activity เด็กส่วนใหญ่อ่านออกเสียงตาม  มีเดินจี้รายบุคคลด้วย ดีมากค่ะ เสียงอ่านที่ดังก็สะท้อนได้ว่าเด็กอ่านออก สนใจครู
5. writing activity สื่อพร้อมมากค่ะ ครูตั้งใจดีมาก เอื้อเด็กเต็มที่ ทั้งภาพที่เตรียมให้ กระดาษบรูฟ อาจารย์เห็นถึงความตั้งใจนะ

Problem solving

1. ไม่แน่ใจว่ากิจกรรมที่ให้ภาพให้ประโยคมาแล้วใส่ก้อนเมฆปิดทับบางคำศัพท์ไว้แล้วให้เด็กทาย หนูตั้งใจจะให้เป็น PS activity หรือเปล่า แม้จะเป็นกิจกรรมที่เด็กยังไม่ได้ฝึกใช้ทักษะการคิดแก้ปัญหาขั้นสูง ก็พออนุโลมได้ค่ะ ถือว่าอย่างน้อยเด็กก็ได้คิดว่า คำศัพท์ที่ถูกภาพก้อนเมฆทับไว้คือคำว่าอะไร
2. กิจกรรม listening#2 comment เดียวกันกับด้านบนค่ะ เป็นกิจกรรม listening ที่ดี แต่ไม่แน่ใจว่าต้องการทำเป็น PS หรือเปล่า ถ้าใช่ก็ตาม comment บน
3. กิจกรรม speaking เด็กบางคนยังพูดไม่ได้เลย แสดงว่ายัง drill มาไม่พอ อาจจะต้องจี้/ช่วยเหลือเด็กที่อ่อนกว่านี้  แต่หลายคนก็พอพูดได้ค่ะ เป็นกำลังใจให้ แค่เพิ่มความสนใจต่อเด็กอ่อนมากขึ้น

Learning styles

กิจกรรมการเขียนเอื้อต่อ visual learners ดีค่ะ  มีภาพแต่ละขั้นตอนในวงจรให้เด็กได้แปะเป็น steps และเขียนอธิบายกำกับ รวมถึงสนับสนุนให้เด็กได้ทำงานเป็นกลุ่มด้วย / เด็กได้ขยับร่างกายลุกออกไปแปะคำตอบที่ผนัง ก็เอื้อต่อ kinesthetic learners ดีค่ะ / มี audio ให้ฟังเยอะ ก็เอื้อต่อ auditory ดี


ภาพรวม

ไม่ได้ใส่คำบรรยายกำกับในวิดีโอมา อาจารย์เลยดูยากหน่อยว่าช่วงไหนตอบโจทย์ไหน  วิดีโอจัดเต็มมาก กิจกรรมมาเยอะ มาเต็ม ตั้งใจสอนดีค่ะ แต่ไม่ใส่คำบรรยายในวิดีโอมาก อาจารย์ตรวจยากว่า กิจกรรมไหนเราตั้งใจให้เป็น PS เท่าที่ดูทั้งหมดยังไม่เห็น PS activity ที่ strong โดนใจ

สรุปคะแนน B+++ หักคะแนน PS activity ที่ยังไม่เห็นชัดเจน

จันสุดา B++

- Human organs = something in the body งั้นอาหารที่อยู่ในร่างกายก็เป็น organ???
- อธิบาย active/passive voice เยอะดี (e.g. subject receiving action) แต่พอเยอะมันจะทำให้งง ถ้าสรุปสั้นๆ โดยใช้ตัวอย่างเป็นหลักหรือใช้ visual + ท่าทางประกอบจะเข้าใจง่ายกว่านี้
- Listening: (พิมพ์ caption ในแผ่นมาผิดนะ) ฟังเกี่ยวกับ functions ต่างๆ ของอวัยวะ แล้วตอบคำถามโดยที่คำถามก็ต้องฟังด้วย เยี่ยมเลย เป็น listening ที่แน่นดี แต่สังเกตได้ว่าไม่มีใครตอบถูกเลยเพราะไม่ได้ย้ำทวนเพียงพอ
- Reading: อ่านเกี่ยวกับ organs ต่างๆ และให้สรุปเป็น mind map / text 3 ตอบโจทย์ output ออกมาดี
- Speaking: ครูเปิดรูป นักเรียนแบ่งกลุ่ม แข่งกันบอกคำศัพท์ของรูปอวัยวะและ function เป็นกิจกรรม speaking ที่ยังไม่ตรงจุด แรกๆ ให้ตอบชื่ออวัยวะและ function หลังๆ พอเห็นว่าไม่มีใครตอบ function ได้ครูเลยให้ตอบแค่ชื่ออวัยวะ
- Writing: วาดรูปอวัยวะ เขียนอธิบาย function และนำเสนอโดยใช้ active/passive voice แต่จากที่ดูกลุ่มแรกนำเสนอแล้วให้คะแนนแค่รูปวาดอย่างเดียว ไม่เห็น output ที่เป็น writing ตามโจทย์ที่ครูให้
- ไม่เห็น pbs
- ไม่ได้ระบุ ls ไว้ชัดเจน แต่เท่าที่ดูน่าจะเป็น visual เพราะมีภาพอวัยวะอย่างละเอียดประกอบการสอน

สุภาภรณ์ B+++

- ภาษา การพูด น้ำเสียง โอเคดี แต่ไปตรวจสอบการอ่านออกเสียง fuel เพิ่มเติม
- สอน active/passive ได้เข้าใจดี มีตัวอย่างเพียงพอ มีการย้ำทวนตอนท้าย ดีมาก
- การฟังในขั้น procedure ฟังเพื่ออะไร วีดีโอตัดไปก่อน
- listening: ฟังเนื้อเรื่องทั้งหมดแล้วฟังคำถาม ให้เลือกตอบ T/F/D(unmentioned) โดยวิ่งไปที่แต่ละมุมห้อง ดีเยี่ยม เพิ่มตัวเลือกที่สามเข้ามาทำให้ท้าทายน่าตื่นเต้นมากขึ้น นับเป็น ls-kinesthetic ได้อยู่
- reading: text 3-how pollution affects the environment โอเค ตอบโจทย์ได้ดี / กิจกรรมให้แบ่งกลุ่มอ่าน เสร็จแล้วให้เรียงประโยคตามที่ได้อ่านมา แล้วส่งตัวแทนไปบอกสมาชิกกลุ่มที่นั่งรอหลังให้ห้องเขียนประโยคตามที่บอก… อะไรคือจุดประสงค์ของกิจกรรมนี้ คือให้อ่านแล้วจำว่า text เขียนว่าอย่างไรเพื่อเรียงให้ถูกจะได้บอกต่อให้เขียนถูกแค่นี้เหรอ ไม่ค่อย practical เท่าไหร่
- speaking: โจทย์ค่อนข้างงง “What the pollution problem would say, think, and feel about itself and its environment?” แต่เท่าที่ดูจากที่นำเสนอก็พอจะเข้าใจอยู่ / ที่ให้คำสั่งว่า each pair thinks นั้นดูเหมือนจะไม่ได้คิดเองเพราะมีโพยให้อ่าน รึเปล่า คือไม่เห็นที่นักเรียนเขียนรวมทั้งขั้นตอนการทำงาน เลยไม่สามารถบอกได้ว่ามี pbs เกิดขึ้นแค่ไหน จากโจทย์และคำสั่งที่ให้นั้นดูดีมาก อารมณ์ SWOT analysis แต่ output ยังไม่แสดงให้เห็นอะไรมากนัก (ป.ล. ยังมีคนอ่าน problem ว่า พอมแพม อยู่นะ -*-)
- writing: แบ่งกลุ่มเขียน cause --> effect --> solution ของ pollution เป็น spider mapping ดีมาก output ตอบตรงโจทย์ได้ดี มี pbs เกิด

นฤนนท์ B+

- สอนแค่ศัพท์ shape เหรอ? ไม่เห็น structure
- listening: ไฟล์ซ้ำกับ speaking
- speaking: ให้วาดรูปทรงต่างๆ แล้วมาพูดอธิบายภาพหน้าชั้น โดยใช้ there is/are พอไหวอยู่ แต่ถ้าให้พูดเพิ่มว่าไอรูปทรงต่างๆ ที่เอามาประกอบกันนั้นเป็นรูปอะไรจะดีขึ้น ไม่งั้นก็เป็นแค่รูปทรงกลุ่มนึงที่ไม่มีความหมายอะไร
- reading: ใช้รูปทรงต่างๆ มาสร้างเป็นรูปร่างตามคำสั่งที่อ่าน / text 3 ไม่น่าจะตอบโจทย์
- writing: ให้วาดรูปโดยใช้รูปทรงต่างๆ แล้วเขียนอธิบายว่ามีรูปทรงอะไรบ้าง แต่ละรูปรงมีกี่อัน แลดูซ้ำซ้อนกับ speaking เพียงแค่เปลี่ยนเป็นเขียนออกมา ไม่มีอะไรใหม่ให้ดู (ตัดต่อวีดีโอได้งงมาก เอา 3 นาทีสุดท้ายของคาบมาไว้เป็น 3 นาทีแรก ต้องดูวนไปวนมา)
- ไม่เห็น pbs / ls เดาว่าเป็น visual ตรงที่ใช้ภาพอธิบายรูปทรงต่างๆ และ kinesthetic ตรงที่ให้วาดภาพ
- topic-shape เกี่ยวอะไรกับ unit-personal information?

Walaiporn  
*Screen สว่างจ้า มองแทบไม่เห็นเลย คราหน้าระวังนะคะเวลาถ่ายวิดีโอ

CBI

1. Unit Health คาดว่าคงเป็น CBI เนื้อหาวิทยาศาสตร์? ที่ถ่ายวิดีโอมาขั้น presentation หนูมุ่งเน้นไปที่ Structure อัดมายาว ไม่ตรงโจทย์อาจารย์อยากตรวจ CBI …. มีถ่าย Text 3 ที่เป็น content มานิดเดียว ให้ฟัง audio และถามตอบ จริงๆตรงนี้ควรจะเป็นจุด focus ของโจทย์เดือนนี้  เทคนิคการสอน CBI คือที่อาจารย์อยากเห็น
2. ลองดูเม้นที่อาจารย์เม้นเพื่อนเรื่องเทคนิคการสอนศัพท์ด้านบนนะ (Pannida)
3. กิจกรรมฟัง เติมคำที่หายไปที่ทำ ก็พอจะนับว่าเป็นกิจกรรมฝึก CBI ได้ ถ้าวิเคราะห์ให้แง่ที่ว่าฟังเอา content แต่ก็เป็นกิจกรรมธรรมดาที่ไม่มีลูกเล่นอะไรพิเศษ
4. กิจกรรมอ่าน ตอนสั่ง direction รวดเดียวก่อนดีไหม มีสามข้อสั้นๆเอง  ที่เห็นคือ อ่านข้อ 1 จับกลุ่มแล้วก็จัดเลยทันที  พอจัดเสร็จค่อยมาบอกว่าทำไรต่อ  อาจารย์ว่าอ่าน direction ให้ครบทุกข้อก่อนจะดีกว่านะคะ  
5. กิจกรรมเขียน  สั่ง direction ให้ครบก่อนค่อยจัดกลุ่มจ้า อาจารย์ว่าเป็นขั้นตอนที่เป็นระบบดีกว่านะ

Problem solving

ไม่เห็นเลย

Learning style

กิจกรรม interview เห็น kinesthetic นอกนั้นก็ ฟัง audio ดูภาพคำศัพท์ ปกติ  พอจะให้นับเป็น visual + auditory (ช่วยสุดๆ)

ภาพรวม

ตอบโจทย์เดือนนี้น้อยไป เหมือนบทเรียน PPP ทั่วไปที่เคยทำส่งมา

คะแนน B (เกือบ -)

อัครเดช B+

- เสียงเบาเกิน ต้องเร่ง +200% ถึงจะได้ยิน
- อธิบาย preposition โดยใช้ text อย่างเดียว งงมากถึงมากที่สุด
- listening: ฟังประโยคแล้วตอบว่าถูกหรือผิด พอได้ ครูไม่ลืมที่จะเฉลยคำตอบที่ถูก ดีมาก
- reading: อ่าน text 3 แล้วแข่งกันตอบคำถาม / text 3 เนื้อหาเกี่ยวกับสุขภาพของหัวใจ โอเค
- speaking: ให้ situation และ role play / เท่าที่ดูออกแนวอ่านบทให้ฟังมากกว่า role play เหมือนไม่ได้ซ้อม / situation นี่มีแค่ปวดท้องไปหาหมออันเดียวเหรอ
- writing: อยากเห็นงานเขียนมากกว่าฟัง ให้นักเรียนอ่านที่เขียนมาก็พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง คนฟังก็ฟังไม่ออก
- ไม่เจอ PBS / ไม่เห็น Learning style ที่ชัดเจน
- preposition ที่สอนตอนแรกเกี่ยวอะไรกับบทเรียนในคาบนี้?
- ครูดูติดขัดในการสอนนิดนึงนะ ไม่ค่อยลื่นไหล แต่ยังดีที่มี self-monitoring อยู่

จริยา

CBI

1. เข้าสู่บทเรียนดี ทั้งวิดีโอและดอกไม้จริง
2. แจก text 1 ให้เด็ก และ ชี้ไปที่ส่วนประกอบของดอกไม้จริง ดีมากจ๊ะ  แม้คำแปลจะยาวจะยาก แต่พอครูมีของจริงมาให้ดูพร้อมชี้พร้อมอธิบายเพิ่มเติม ทุกอย่างเลยโอเค
3. เสียง audio ใช้โปรแกรมอัดเอาใช่ไหม  พอจะลด speed ได้ไหมจ๊ะ เร็วไปฟังไม่ทัน
4. กิจกรรมฟัง เด็กดูชีทคำศัพท์ได้อยู่เนอะ? ไม่งั้นถ้าฟังออกแต่เขียนศัพท์ไม่ได้แย่เลย  เห็นวางชีทบนโต๊ะ แสดงว่าหนูคงไม่ได้ห้าม
5. กิจกรรมพูด ไม่ CBI จ๊ะ

Problem solving

ไม่เห็น

Learning style

นับ auditory + visual ให้ละกันจ๊ะพยายามช่วย + ส่วน role play ไม่นับ kines ให้ เด็กแค่ออกมายืนอ่าน

ภาพรวม
ตอบโจทย์ไม่ครบ

คะแนน  B

อมลวรรณ A

- พูดผิดบ้างถูกบ้าง แต่มี self-awareness แก้ตัวเองได้ ให้อภัยไป / ดูคำอ่านของ throat มาใหม่
- when you sneeze don’t forget to close your mouth and nose... แปลจากคำไทย ปิด=close ไม่ได้ ต้องใช้ cover ขืนปิดตอนจามก็ตายพอดี
- อธิบาย should for advice โอเค ตัวอย่างชัดเจน มีเช็คความเข้าใจ ดีมาก
- listening: ฟังเรื่อง hay fever แล้วตอบคำถาม... โอเค
- speaking: interview เพื่อนในหัวข้อ If you have hay fever should you go to school? Why? โดยที่คนตอบจะต้องคิดตามสเต็ป think --> pros/cons --> make decision ก่อนตอบคำถาม... ดีมาก เป็นกิจกรรมที่ practical และนำ structure ที่สอนไปมาใช้ด้วย ทุกอย่างลงตัว ไม่มีอะไรถูกทอดทิ้ง ถือได้ว่า pbs เกิดแล้ว (เลือกเอาสักอย่างว่าจะ give a big hand หรือ clap hand... clap a big hand to your friend ไม่มีในโลก) / นักเรียนหลายคนตอบผิดแบบงงๆ ไม่ก็ลอกกันมา ครูมีให้ feedback ที่ถูกหรือไม่
- reading: text 3 เป็นข้อมูลเกี่ยวกับ hay fever โอเค ตอบโจทย์ / กิจกรรมแบ่งกลุ่มและให้สมาชิกกลุ่มแยกย้ายกันไปอ่าน text ที่แบ่งเป็นสามตอน เสร็จแล้วรวมกลุ่มและ share idea เกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน จากนั้นทำ conceptual map สรุปเรื่องที่ต่างคนต่างอ่านมา... สุดยอด แต่จะดีกว่าถ้ามี output มาให้ดูด้วย ฟังที่นำเสนอไม่ค่อยรู้เรื่อง
- writing: ทำป้ายรณรงค์การป้องกัน hay fever โดยใช้ should/shouldn’t... ดีเยี่ยม ได้ใช้สิ่งที่เรียนมาให้เกิด output ดูจากงานแล้วทุกคนทำได้ดี แสดงว่าประสบความสำเร็จ
- ระบุ ls ไว้ชัดเจน มาทั้งหมู่บ้าน visual, auditory, verbal, logical, social, solitary, and tactile
- ตอนแรกนึกว่าจะสวยแค่ title วีดีโอ แต่โอเคการสอนก็สวยด้วย ดูแล้ว well planned and prepared ดี ไอที่ผิดไปก็ให้อภัยได้

ณัฐพล B+

- อธิบาย past simple ได้โอเค ตัวอย่างเยอะดี สามารถ keep simple thing ให้ simple ได้
- Listening: ฟังเนื้อเรื่องแล้วตอบคำถาม T/F โอเค ผ่าน แต่บางทีก็ดูเหมือนว่าไม่ตั้งใจฟังกันนะ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าที่ตอบกันมานั้นรู้จริงไม่ใช่แค่เดา? มีวิธีไหนที่เช็คได้?
- Reading: text 3 คืออะไรไม่บอก ไม่เห็น เท่าที่เห็นมันก็ดูสั้นๆ output ที่เป็น mind map ก็ไม่เห็นละเอียด มองเห็นลางๆ ไม่สามารถประเมินอะไรให้ได้ ณ จุดนี้ / ยังไม่เห็นว่ามี problem อะไร ให้ solve (มีคนหลับคากระดาษคาพื้นแล้วนั่น)
- Speaking: ให้ interview โดยใช้คำถาม Did you go to any tourist attraction? คำถามเป็น yes/no ดูง่ายและธรรมดาไปมั้ย แล้วถามลอยๆ Did you go... มันก็แปลกไปมั้ย go เมื่อไหร่ yesterday หรือ last month หรือ recently / ถ้าถามต่อว่า Why? มันจะดูดีและตรงจุดกว่านี้
- Writing: ให้เขียนบรรยาย local tourist attraction = Nadoon Stupa เท่าที่พยายามเพ่งดูที่เขียนกัน สังเกตได้ว่าทุกกลุ่มเขียนเหมือนกันหมด จะมีแตกกันตรงภาพประกอบที่วาด อีกทั้งตัวกิจกรรมดูธรรมดาและจำกัดความคิดเกินไป ไม่ได้กระตุ้นให้คิดหรือมี problem solving อะไรเลย
- ให้คะแนนตรง style การสอน โดยเฉพาะการย้ำทวนคำสั่งที่ไม่ใช่เอะอะก็ถาม Do you understand? พอ Yes แล้วก็จบ

ฐิติพงษ์

CBI

1. สอน CBI ถูกต้องตามโจทย์ Content วิทยาศาสตร์…วิดีโอนำเข้าสู่บทเรียนใช้ได้หาได้ภาพและเสียงชัดเจนดี  พบ CBI ใน 4 ทักษะ  
2. เด็กฟังทันไหมจ๊ะ ครูพูดคล่อง อาจารย์ฟังทัน แต่สงสัยว่าเด็กฟังตามเราทันไหม ทักษะเขาพร้อมฟังด้วย speed นี้หรือยัง ถ้าเด็กฟังทันก็ ok ใช้ speed เดิมต่อไปจ๊ะ แต่ถ้าไม่ทัน อาจต้องพูดช้าลงนะ
3. เทคนิค Computer ตอนสอน grammar ดีมากจ๊ะ  ตั้งใจทำสื่อเตรียมสอนมาดี เด็กดุตามได้ง่าย

Problem solving

No#1 paragraph X-ray (?)  วิเคราะห์
No#2 writing activity  คิดวิเคราะห์หาวิธี หาคำตอบ
*ถ้ากิจกรรม PS strong กว่านี้จะดีค่ะ เพิ่มเติมการคิดแก้ปัญหา การคิดขึ้นสูงกว่านี้ ท่าจะดี

Learning styles

Kines ลุกมาเขียนที่ผนัง ลุกจัดแถวสัมภาษณ์+ Visual, Auditory สื่อสอน

ภาพรวม

คุมห้องได้ดี เด็กเงียบตั้งใจเรียนมาก  ไม่แน่ใจว่าเราพูดเร็วไปไหม (อาจารย์ไม่รู้ level เด็ก) เพิ่มลูกเล่นที่ PS activity อีกหน่อยท่าจะดีค่ะ

คะแนน B+++

ทนงศักดิ์

CBI

1. ดีนะ ขึ้นคำถามเกี่ยวกับวิดีโอบน screen ด้วย ได้สอนศัพท์และ structure ด้วย ตั้งแต่ขั้น intro
2. สอนศัพท์ดีค่ะ มีภาพ มีเสียง อธิบายด้วยท่าทาง ขยายความ และ paraphrase
3. content CBI เป็นวิชาวิทยาศาสตร์หรอคะ
4. เนื้อหา 4 ทักษะ ก็ไปในทิศทางเดียวกันดีค่ะ


Problem solving

1. ตอบโจทย์ดี โดยเฉพาะ Speaking Activity #2 I am a lifeguard. สอน IDEAL แล้วเด็กได้ฝึกคิดวิเคราะห์ตามโจทย์

2. ส่วน Writing activity ก็โอเคค่ะ ได้วิเคราะห์ สังเคราะห์ แต่อาจารย์ชอบแบบข้อ 1 มากกว่า practical ดี


Learning styles

Kines เจอในกิจกรรมฟัง แปะภาพบนกระดาน + visual, auditory เจอในสื่อสอน

ภาพรวม

ตอบโจทย์ หากเนื้อหายากขึ้นกว่านี้หน่อยท่าจะดีค่ะ

คะแนน A

จำรัส

ภาพรวม

1. ดีนะ ให้เด็กได้ฝึก repeat ชื่อ unit ตาม
2. ตอนวิดีโอนำเข้าสู่บทเรียน  ทำไมถ่ายเด็กๆซะเป็นหลัก อาจารย์ไม่เห็น screen เลย
3. ชมเชยเรื่องความตั้งใจในการเตรียมสอนค่ะ สื่อการสอนพร้อมเสมอ ลงทุนลงแรงในการทำ
4. เริ่มใช้ท่าทางประกอบการสอนศัพท์ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ดีขึ้นเรื่อยๆ

CBI

1. ok ค่ะ สอน solar system ตอบโจทย์  ช่วง presentation ยังเป็นลักษณะครูพาอ่านตามจอธรรมดา ประกอบกับเด็กดูไม่พร้อมกับความยากของเนื้อหา ทำให้เด็กหลายคนหลุดไม่ฟังไม่สนใจ  อาจารย์ไม่แน่ใจว่าเด็กส่วนมากได้เรียนรู้เนื้อหาแค่ไหน  
2.  Text 3 มีแจกไหม วิดีโอไม่มี text เลย  ยากไปนะคะให้ดูวิดีโอ มีแค่ภาพและเสียง  เด็กตอบคำถาม True/False ไม่ค่อยได้เลย แสดงว่า input ไม่พอ
3.   สื่อสอนช่วง reading activity ดีมากค่ะ

PS activity

เจอที่ writing activity  กิจกรรม ok ค่ะ แต่เด็กยังได้คิดน้อยไปหน่อยนะคะ  ให้วาดภาพแค่ดวงที่เลือก แล้วเขียนอธิบายเยอะๆ ใส่ศัพท์ประกอบดีไหม

Learning style

เจอ kines ที่ speaking activity + Visual และ audio ที่สื่อการสอน

คะแนน  B+++

ศุภวรรณ

ภาพรวม

1. เข้าสู่บทเรียนด้วย realia ดีค่ะ
2. แจก Text 1 ก่อนสอนศัพท์ ดีมากค่ะ ดีมากที่ให้ดูภาพก่อน แล้วถาม อธิบาย ก่อนจะขึ้น definition สั้นๆ
3. สื่อสอนดี ขยันขันแข็ง เห็นในความตั้งใจ ใส่ใจในทุกกิจกรรมการสอน

CBI

อาจารย์ไม่เห็นขั้น present Text 3 เลย หรือว่าหนูรวมเนื้อหาใส่ 4 ทักษะ หรือว่า content อยู่ในกิจกรรมฟัง ..... อาจารย์ว่าสอนเนื้อหาเด็กก่อนหน่อยดีไหมคะ แล้วค่อยเริ่มทำกิจกรรม น่าจะดีกว่าไหม

PS activity

ช่วงแรก ทำไมเด็กนิ่งเงียบเป็นหลักหละ เหมือนเด็กส่วนมากไม่เข้าใจคำสั่งกิจกรรม ^^ / “let you find” ไม่ต้องใส่ to / กิจกรรมช่วงหลังดีค่ะ มีฟัง มีภาพ และได้คิด

Learning style

Visual + auditory แทรกอยู่ในทุกกิจกรรม และ เจอ kines เยอะเหมือนกันค่ะ ว่าแต่ระวังงบหมดนะ ใช้โพสอิสเยอะ ^^

คะแนน A-

นันทนัช

1. เข้าสู่บทเรียนด้วย realia ดีค่ะ วิดีโอหามาได้ดีมากค่ะ
2. สอนศัพท์ยังสอนแบบยากอยู่เลย ทำยังไงดีถึงจะสอนได้ง่ายกว่านี้ ยังเน้นพาอ่านตาม definition ยาวๆอยู่เลย
3. กิจกรรม listening น่าจะเพิ่มลูกเล่นอีกหน่อยให้น่าสนใจกว่า การฟัง จับใจความ แล้วมานำเสนอ เพราะโจทย์เดือนนี้เอื้อให้ใส่ลูกเล่นได้เยอะ ทั้ง PS activity และ learning styles
4. กิจกรรม role play ยังไม่จัดว่าเป็น PS activity นะ เพราะมีบทพูดให้พร้อม เด็กไม่ได้ฝึกคิดแก้ปัญหาเลย แค่ได้อธิบายขั้นตอนการออสโมซิสกับออกไปพูดตามบท ยังไม่กระตุ้นให้เด็กมี PS

สรุป B ยังไม่ค่อยตอบโจทย์เท่าไหร่ค่ะ ยังไม่มีโจทย์เด่นออกมาให้ตรวจ ยังดูเป็นการสอนแบบปกติที่ไม่ได้กระตุ้น PS และ สนับสนุน learning styles ที่หลากหลาย

สิเรียม B+++

ภาพรวม

1. สอนศัพท์ดีค่ะ วิธีดี สื่อดี ควรทำต่อไป
2. ควรแจก text ช่วงกิจกรรมฟัง เพราะตัวหนังสือบน screen เล็กมากเด็กมองไม่เห็น  (แต่เด็กก็พอตอบคำถามได้ แสดงว่าฟังพอได้)
3. What should we do? ระวังสัญลักษณ์

Learning style

กิจกรรมหลากหลาย สนับสนุน learning styles สื่อก็เตรียมมาหลากหลายดี kines เห็นเด่นๆที่ listening activity//  Visual ก็เด่นตรง Reading activity

CBI

CBI ก็สัมพันธ์กันดีทั้ง 4 ทักษะ และ เนื้อหาง่ายไปหน่อย ถ้าจะตอบโจทย์เดือนนี้อาจต้องเลือกเนื้อหาที่เข้มกว่านี้

PS activity

PS activity เห็นใน writing activity พอใช้ได้  แต่ก็ยังไม่โดนใจเท่าไหร่ เด็กยังได้ PS ไม่พอ เกือบจะได้ A แล้ว